เชลซีกุนซือคนใหม่คือใครกันแน่

Roman-Abramovich-photo

สิงห์บลูส์ที่ตอนนี้ประกาศชัดแล้วว่าต้องการผู้จัดการทีมเข้ามาแทนโค้ชเก่าอย่างเมาริซิโอ ซาร์รี่ที่ย้ายออกไปคุมทีมในอิตาลีอีกครั้ง ปัญหาเหล่านี้หลายคนคงเข้าใจดีว่าทำไมเขาต้องอำลาทีมไป ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมนักเตะเอาไว้ไม่ได้ ฟอร์มการเล่นของทีมก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรรวมไปถึงตัวเขาอาจจะมีความเครียดและกดดันมากจนต้องออกจากทีมไป การแสดงออกของซาร์รี่ที่เห็นได้ชัดคือเขาออกอาการไม่พอใจกับบรรดานักเตะของเขาเองจนทำให้มีข่าวอย่างไม่ขาดสายว่าตัวเขาน่าจะอยู่คุมทีมได้ไม่นานนัก ซึ่งตอนนี้มันก็กลายเป็นเรื่องจริงไปแล้วปัญหาเรื่องชื้อนักเตะก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทีมสิงห์บลูส์คงปวดหัวไม่น้อยเพราะการเสียเอเดน อาซาร์ไปทำให้ทีมขาดผู้เล่นตัวหลักไปแล้วไม่สามารถชื้อเข้ามาทดแทนได้อีกเป็นงานยากสำหรับโค้ชที่จะเข้ามาเพราะดูแล้วต้องใช้ผู้เล่นที่มีอยู่ตอนนี้ ในการเล่นฤดูกาลหน้าด้วยสถานการณ์ที่บีบบังคับแบบนี้คงมองแล้วยากมากกับทีมอื่นๆ ที่มีการชื้อนักเตะเข้ามาเพิ่มในการเสริมทีมให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

Roman-Abramovich

โดยเฉพาะการลุ้นแชมป์ที่ต้องแย่งชิงกับทีมเรือใบสีฟ้าแมนฯซิตี้ที่ตอนนี้กลายเป็นสโมสรที่มีระบบลงตัวอย่างมาก และมีนักเตะระดับเกรดสูงทั้งทีมตัวจริงตัวสำรองเปลี่ยนกันได้ตลอดเวลาจุดนี้เป็นสิ่งที่เชลซีขาดหายไป เป้าหมายโค้ชที่เสี่ยหมีโรมัน อับราโมวิชเล็งเอาไว้จะเป็นใครกันนั้นดูแล้วมันยากมากที่จะรู้ถึงความคิดของเจ้าของสโมสรรายนี้ ข่าวที่ออกมามีหลายตัวเลือกด้วยกันที่ดูจะโอกาสเข้ามานั้นก็มีแฟรงก์ แลมพาร์ดอดีตนักเตะระดับตำนานของสโมสรที่ตอนนี้อยากเข้ามาคุมทีมรักของเขาแต่มันจะตรงใจอับราโมวิชหรือเปล่าเหตุผลคือประสบการณ์ที่น้อยแถมยังไม่ประสบความสำเร็จกับทีมไหนเลยในชีวิตการคุมทีม ซึ่งเชลซีจะกล้าเสี่ยงมั้ยกับตำนานนักเตะที่มีความรักกับสโมสรแต่ประสบการณ์ยังน้อยไปถึงแม้จะอยู่ในวงการฟุตบอลอังกฤษมานานแต่นั้นก็ในฐานะนักเตะเท่านั้น ตัวเลือกอีกคนคือโชเซ มูรินโญตอนนี้ว่างงานอยู่เป็นผู้จัดการที่นำทีมสิงห์บลูส์ประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงเวลาที่เขาคุมทีมอยู่แต่ปัญหามันอยู่ที่เสี่ยหมีจะหวนกลับไปดึงเขากลับสู่ถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์อีกหรือไม่ ซึ่งในตอนนี้อารมณ์ของแฟนบอลเชลซีคงอยากให้รีบแต่งตั้งโค้ชคนใหม่ให้เร็วที่สุดเพื่อการเตรียมแผนในฤดูกาลหน้าที่กำลังใกล้เข้ามาแล้วถ้าได้กุนซือรายใหม่เข้ามามันจะตรงใจแฟนบอลหรือเปล่า แต่ก็ต้องเข้าใจว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นความชินของสโมสรเชลซีที่เปลี่ยนโค้ชเป็นว่าเล่นในทุกฤดูกาล